สภากาชาดไทยมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุน้ำท่วมในลิเบีย

สภากาชาดไทยอนุมัติเงินช่วยเหลือจำนวน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 แสนบาท เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุน้ำท่วมในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาชนอาหรับลิเบีย ผ่านการระดมทุนของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 พายุแดเนียลเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลิเบีย ทำให้เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมและบานปลายจนเกิดเหตุการณ์เขื่อน 2 แห่งในเมืองเดอร์นา (Derna) พังถล่ม ซึ่งส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้างต่อชุมชนใกล้เคียง  ทั้งนี้ จากรายงานของ IFRC เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 แจ้งว่ามีประชาชนเสียชีวิตกว่า 5,000 ราย สูญหายกว่า 10,000 ราย และมีผู้พลัดถิ่นกว่า 30,000 คน  นอกจากนี้ สภาพเมืองถูกน้ำพัดทำลาย ทำให้ที่พักอาศัย เครื่องอุปโภคบริโภค ระบบสาธารณสุข ระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก  ซึ่งขณะนี้ IFRC และสภาเสี้ยววงเดือนแดงลิเบียกำลังดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ภาพ : Libyan Red Crescent

สภากาชาดไทยสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเปิดรับบริจาคให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในโมร็อกโก

สภากาชาดไทยอนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมให้กับสภาเสี้ยววงเดือนแดงโมร็อกโก จำนวน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 แสนบาท และเปิดรับบริจาคจากสาธารณชนเพื่อส่งเงินบริจาคเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในราชอาณาจักรโมร็อกโก เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูด ในเมืองมาร์ราเกช (Marrakesh) ราชอาณาจักรโมร็อกโก ซึ่งส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง  จากรายงานของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 แจ้งว่า มีประชาชนกว่า 6 ล้านคนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าว ในจำนวนนี้มีประชาชนอย่างน้อย 2,901 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บ 2,562 คน  รวมไปถึงที่พักอาศัย เครื่องอุปโภคบริโภค ระบบสาธารณสุข ระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายอย่างมาก ขณะนี้สภาเสี้ยววงเดือนแดงโมร็อกโกกำลังร่วมมือกับ IFRC ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวดังกล่าว สำหรับผู้ที่ประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถร่วมบริจาคได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ” ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่บัญชี 045-3-04637-0 ข้อสังเกต…

ผู้แทนของสภากาชาดและเสี้ยววงเดือนแดง 6 ประเทศ เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานที่สภากาชาดไทย

ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ผู้แทนด้านการจัดการภัยพิบัติของสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงจาก 6 ประเทศ ได้แก่ สภากาชาดกัมพูชา สภากาชาดเมียนมา องค์การกาแดงแห่งชาติลาว สภากาชาดเนปาล สภาเสี้ยววงเดือนแดงมัลดีฟ สภาเสี้ยววงเดือนแดงบังกลาเทศ และเจ้าหน้าที่ของ IFRC รวมทั้งหมด 10 ท่าน ได้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาการดำเนินงานด้านการจัดการภัยพิบัติของสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์พร้อมเยี่ยมชมคลังสัมภาระผู้ประสบภัย และเยี่ยมชมสวนงู ทั้งนี้ พลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์และนายอานนท์ เชิงชวโน ผู้อำนวยการสำนัก   วิเทศสัมพันธ์ ได้ร่วมให้การต้อนรับ Ms. Barbara Wibmer ผู้ประสานงานฝ่ายสนับสนุนการบริการและ     ความร่วมมือ IFRC และคณะ

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทรงเข้าร่วมงานปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” ครั้งที่ ๑๐

วันที่ 30 สิงหาคม 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ทรงฟังปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” ครั้งที่ 10 เกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หัวข้อ “การป้องกันการพลัดถิ่นโดยไม่มีเหตุอันควร และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้พลัดถิ่นจากการสู้รบ” โดยมีนางสาวเซซิเลีย ฮีเมเนซ-ดามารี นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศชาวฟิลิปปินส์ และอดีตผู้เสนอรายงานพิเศษของสหประชาชาติ ด้านสิทธิมนุษยชนของผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ เป็นผู้แสดงปาฐกถา ซึ่งงานครั้งนี้สภากาชาดไทยจัดขึ้นร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้กราบบังคมทูลถวายรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของงานปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจของสภากาชาดไทยในฐานะสมาชิกขบวนการกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ  ในการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อสาธารณชน โดยจัดงานปาฐกถาขึ้นทุก 2 ปี ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันเป็นครั้งที่ 10 และเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปี  ในโอกาสนี้มีผู้เข้าร่วมฟังปาฐกถากว่า 300 คน จากหน่วยงานราชการ คณะทูต องค์กรระหว่างประเทศ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร รวมถึงนักวิชาการและนักศึกษาจากสถาบันต่าง…

สภากาชาดไทยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีระบุตัวตนของบุคคลที่ไม่มีเอกสารประจำตัวในประเทศไทย

วันที่ 15 สิงหาคม 2566 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย พร้อมด้วย นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ปฏิบัติการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีระบุตัวตนของบุคคลที่ไม่มีเอกสารประจำตัวในประเทศไทย เพื่อการสาธารณสุขและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ส่งเสริมให้มีการประยุกต์ใช้งานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมกับงานด้านสาธารณสุข ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนในประเทศดียิ่งขึ้น โดยได้นำเอาเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและลายม่านตา ด้วยระบบ Face Recognition และ Iris Recognition เข้ามาช่วยสนับสนุนทางการแพทย์ ในการบันทึกข้อมูลของผู้รับบริการฉีควัคซีน และยืนยันตัวตน ในการเข้ารับวัคซีน รวมทั้งสามารถนำไปต่อยอดในการทำงานด้านมนุษยธรรม โดยเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับการบริการสาธารณสุขของไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค ในกลุ่มประชากรข้ามชาติที่อยู่ในประเทศไทย ณ ห้องประชุมแสงสุขเอี่ยม โรงพยาบาลนครท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร

สภากาชาดไทยถวายพระพรชัยมงคลและลงนามถวายพระพร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร สภากาชาดไทย ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล เปิดกรวยถวายสักการะและลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2566 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร ณ บริเวณชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566

ภาวะสังคมผู้สูงอายุ

ภาวะสังคมผู้สูงอายุ   รู้หรือไม่? โครงสร้างประชากรของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ประชากรเด็กมีอัตราลดลงจากร้อยละ 30 ในปี2537 เป็นร้อยละ 24.9 ในปี 2545 และร้อยละ 22.4 ในปี 2550 ซึ่งตัวเลขสวนทางกับจำนวนประชากรสูงอายุที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 6.8 ในปี 2537 เป็นร้อยละ 9.4 และ 10.7 ในปี 2545 และ 2550 ตามลำดับ จากสถานการณ์และแนวโน้มที่จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นในประเทศไทย หน่วยงานในหลายภาคส่วนได้เริ่มตระหนักและเห็นความสำคัญโดยมีการผลักดันกฏหมายประกาศใช้พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งพระราชบัญญัตินี้ ออกมาเพื่อช่วยเหลือและรองรับผู้สูงอายุที่จำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นสิ่งที่ต้องมีการจัดการเตรียมระบบด้านสวัสดิการสังคม ระบบบริการ ด้านสุขภาพ ในการรับมือกับสังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้   ปัญหาด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ ปัญหาด้านสุขภาพในผู้สูงอายุจะพบได้บ่อย ทั้งนี้เนื่องจากวัยสูงอายุมีปัจจัยการเปลี่ยนแปลงในการเสื่อมถอยในหลายด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ เศรษฐกิจ และสังคม เป็นต้น สำหรับปัญหาทางด้านร่างกายที่สามารถพบได้ เช่น กลุ่มอาการเมแทบอลิก (Metabolic Syndrome) เช่น ความดันโลหิตสูง…

หลบ หลีก ปลอดภัย ป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า

  หลบ หลีก ปลอดภัย ป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน สิ่งที่ทุกท่านต้องระมัดระวังและใส่ใจนอกเหนือจากสุขภาพแล้ว ยังมีอันตรายจากการเกิดจากฟ้าผ่าระหว่างฝนตกตามมา ดังนั้นวันนี้เราจะมาชวนทุกท่านมารู้วิธีการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีฝนตกและมีฟ้าผ่ากัน หลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณที่โล่งแจ้ง ขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง เช่น ลานกว้าง สนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ สนามกอล์ฟ ไม่กางร่มที่มีปลายโลหะยอดแหลมในที่โล่งแจ้ง และไม่ถือวัตถุที่ชูสูงขึ้นไปจากตัว ถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ถอดวัตถุหรือเครื่องประดับที่เป็นโลหะออกจากร่างกาย ไม่ใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากมีวัสดุจำพวกโลหะเป็นส่วนประกอบให้เกิดการเหนี่ยวนำคลื่นไฟฟ้า กรณีหลบอยู่ในรถยนต์ดับเครื่องยนต์ปิดกระจกควรนั่งกอดอกหรือวางมือบนตักและไม่สัมผัสกับส่วนใดส่วนหนึ่งของรถที่เป็นโครงโลหะ ไม่จอดรถหรือยืนใกล้ต้นไม้ใหญ่ ตึกสูง ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้า ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

สภากาชาดไทย จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล และลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

สภากาชาดไทย นำโดย นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร สภากาชาดไทย ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล เปิดกรวยถวายสักการะ และลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ณ บริเวณชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมลงนามถวายพระพร เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม – วันที่ 9 สิงหาคม 2566 เวลา 08.00-16.00 น. ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย